
Misoprostol คืออะไร
สาว ๆ บางคน อาจจะพอรู้มาบ้างว่าเราสามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ด้วยการใช้ยา Misoprostol คู่กับ Mifepristone (RU486) แต่อาจจะงงว่าเอ๊ะ Misoprostal (ไซโตเทค) มันเป็นรักษาโรคกระเพาะนี่ เกี่ยวอะไรกับการทำแท้ง วันนี้เรามารู้จกเจ้า Misoprostal (ไซโตเทค) กันดีกว่า
ยา Mifepristone (RU486) ใช้สำหรับยุติการตั้งครรภ์ในผู้ที่มีอายุครรภ์ไม่เกิน 9 สัปดาห์ ใช้ร่วมกับยา Misoprostal (ไซโตเทค) ซึ่งยา Misoprostal (ไซโตเทค) ได้ขึ้นทะเบียนในประเทศไทยเพื่อการรักษาโรคกระเพาะ และโรคทางนรีเวช
Misoprostol หรือที่รู้จักในอีกชื่อ คือ ไซโตเทค เป็นยาในกลุ่มโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) ชนิดสังเคราะห์ เพื่อป้องกันแผลในกระเพาะอาหาร และลำไส้จากการรับประทานยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ หรือยาเอ็นเสด (NSAIDs) ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงอื่น ๆ จากภาวะดังกล่าว รักษาภาวะตกเลือดหลังคลอด ช่วยเร่งการคลอด หรืออาจใช้รักษาภาวะอื่นภายใต้ดุลยพินิจของแพทย์ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ควบคู่กับยาชนิดอื่นเพื่อยุติการตั้งครรภ์ในช่วงอายุครรภ์น้อย ๆ ตามข้อบ่งชี้ของแพทย์
ปริมาณการใช้ยา Misoprostal
ยา Misoprostol มักใช้รักษาโรคแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ โดยทั่วไปผู้ใหญ่ให้รับประทานวันละ 800 ไมโครกรัม โดยแบ่งรับประทาน 2-4 ครั้ง พร้อมอาหาร เป็นระยะเวลาติดต่อกันอย่างน้อย 4 สัปดาห์ จนกว่าอาการจะดีขึ้น แต่ไม่ควรเกิน 8 สัปดาห์ สำหรับปริมาณการใช้ยาในสภาวะอื่นอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านสุขภาพของแต่ละคน วัตถุประสงค์ในการรักษา ตัวยาหลักในการออกฤทธิ์ ความแรงของยา และดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา เช่น
ป้องกันแผลในกระเพาะอาหารจากการใช้ยากลุ่มเอ็นเสด
ผู้ใหญ่: รับประทานวันละ 100-200 ไมโครกรัม แบ่งรับประทาน 2-4 ครั้ง
ยุติการตั้งครรภ์ (อายุครรภ์ 49 วัน หรือน้อยกว่า)
ผู้ใหญ่: รับประทานวันละ 400 ไมโครกรัม โดยให้รับประทานหลังจากยามิฟีพริสโตน (Mifepristone)
กระตุ้นให้เจ็บครรภ์คลอด
ผู้ใหญ่: สอดยาชนิดควบคุมการปลดปล่อยยา ขนาด 200 ไมโครกรัม บริเวณช่องคลอด ซึ่งตัวยาจะค่อย ๆ ถูกปล่อยออกมา 7 ไมโครกรัมต่อชั่วโมงในเวลา 24 ชั่วโมง หรือ สอดยา ขนาด 25 ไมโครกรัม ทุก ๆ 4-6 ชั่วโมง
ป้องกันการตกเลือดหลังคลอด
ผู้ใหญ่: รับประทานยา 400-600 ไมโครกรัม หรือ เหน็บยาทางทวารหนักหลังทารกคลอด แต่ให้ใช้ยาก่อนขั้นตอนการคลอดทารก
คำเตือนในการใช้ยา
ห้ามใช้ยานี้ กับสตรีมีครรภ์ เพราะจะมีความเสี่ยงต่อภาวะแท้ง การคลอดก่อนกำหนด หรือทารกในครรภ์พิการ หากมีความจำในการรับประทานยานี้ ควรปรึกษาแพทย์ถึงข้อดีและข้อเสียก่อนทุกครั้ง
ควรใช้ยาอย่างระมัดระวัง สำหรับผู้ที่มีอาการท้องเสียหรือเป็นโรคในกลุ่มอาการที่เกิดจากการอักเสบเรื้อรังของลำไส้ ภาวะขาดน้ำ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง ความดันโลหิตต่ำหรือโรคที่ส่งผลให้ความดันโลหิตต่ำ โรคไต ยาทำแท้ง
สตรีที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร และเด็ก ไม่ควรใช้ยานี้ เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลยืนยันถึงความปลอดภัยอย่างเพียงพอและตัวยาอาจส่งผ่านทางน้ำนมไปยังทารก
ห้ามใช้ยานี้กับผู้ที่มีแนวโน้มตั้งครรภ์ และยังไม่ได้รับการยืนยันด้วยการตรวจอัลตราซาวด์ มีภาวะท้องนอกมดลูก อายุครรภ์มากกว่า 49 วัน เคยผ่าท้องคลอดบุตรหรือมีรอยแผลที่มดลูก มีภาวะรกเกาะต่ำหรือเลือดออกโดยไม่ทราบสาเหตุในช่วงที่มีอายุครรภ์มากกว่า 24 สัปดาห์ ทารกอยู่ในท่าผิดปกติ ภาวะถุงน้ำคร่ำอักเสบ อายุครรภ์น้อยกว่า 36 สัปดาห์ เพิ่งได้รับยาออกซิโทซิน (Oxytocin) หรือยาเร่งคลอดอื่น ๆ
การใช้ยา
ก่อนการใช้ยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับประวัติการแพ้ยา สมุนไพร อาหารเสริม หรือยาทุกชนิดที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเสมอ รวมถึงใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์และอ่านฉลากอย่างละเอียด เนื่องจากตัวยามีหลายรูปแบบ โดยทั่วไปมักรับประทานหลังอาหารและการใช้ยาครั้งสุดท้ายของวันควรเป็นเวลาก่อนนอน เพื่อประสิทธิภาพยาสูงสุด ยกเว้นแพทย์สั่งเป็นกรณีพิเศษ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานยาลดกรดที่มีส่วนผสมของแมกนิเซียม ไฮดรอกไซด์ หรือยาที่กระตุ้นให้เกิดการขับถ่ายอย่างน้อย 1 – 2 ชั่วโมง เพราะผลข้างเคียงของยา Misoprostol มักจะก่อให้เกิดอาการท้องเสีย ซึ่งอาจจะทำให้อาการของผู้ป่วยแย่ลงได้
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยา
มีอาการแพ้ยา ทำให้เกิดผื่น อาการบวมตามใบหน้า ลิ้น หรือคอ เวียนศีรษะอย่างรุนแรง มีปัญหาในการหายใจ หรือความผิดปกติอื่น ๆ
อาเจียนเป็นเลือดหรือมีสีดำ
ถ่ายอุจจาระปนเลือดหรือมีสีดำ
ปัสสาวะปนเลือด
ความสามารถในการได้ยินเปลี่ยนแปลงไป หรือหูหนวก
มึนศีรษะ
มองเห็นไม่ชัด
เลือดออกหรือเกิดรอยช้ำโดยไม่ทราบสาเหตุ
เหนื่อยง่าย อ่อนแรง
หายใจมีเสียงวี๊ด ๆ หรือหายใจสั้น
หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
อ่านบทความเพิ่มเติม