You are currently viewing ยาทำแท้ง คืออะไรนะ
10.ยาทำแท้ง คืออะไรนะ_.jpg

ยาทำแท้ง คืออะไรนะ

10.ยาทำแท้ง คืออะไรนะ_.jpg

ยาทำแท้ง คืออะไรนะ

ในทุกวันนี้ อัตราของผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อมยังคงมีอยู่มาก ส่วนหนึ่งเกิดมาจากการขาดความรู้ในเรื่องของการป้องกันการตั้งครรภ์ เหตุผลต่อมาคือเรื่องของสุขภาพ และสำหรับบางคนเป็นการตั้งครรภ์โดยไม่ได้เกิดจากความยินยอม และในทุกวันนี้การยุติการตั้งครรภ์ด้วยยาก็เป็นที่รู้จักกันมากขึ้น วันนั้เราจะมาทำความรู้จักยาเหล่านี้กัน

ยายุติการตั้งครรภ์ หรือยาทำแท้ง ที่องกรณ์อนามัยโลกให้การยอมรับนั้นมีอยู่ 2 ชนิดด้วยกัน นั่นก็คือ Mifepristone หรือ RU486 (200 มิลลิกรัม) และ Misoprostal หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไซโตเทค cytotec (200 ไมโครกรัม)

เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2557 กระทรวงสาธารณสุขเล็งเห็นความสำคัญของเทคโนโลยีการยุติการตั้งครรภ์ด้วยยา จึงได้ขอขึ้นทะเบียนยา Mifepristone (RU486) และ Misoprostal (ไซโตเทค) ที่บรรจุในแผงเดียวกัน กับสำนักกรรมการอาหารและยา เพื่อใช้ยุติการตั้งครรภ์ และต่อมาในวันที่ 13 มิถุนายน 2559 คณะอนุกรรมการบัญชียาหลักแห่งชาติ ได้พิจารณาคัดเลือกยาทั้งสองชนิดบรรจุไว้ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ในชื่อย่อย จ(1)

ยา Mifepristone (RU486) ใช้สำหรับยุติการตั้งครรภ์ในผู้ที่มีอายุครรภ์ไม่เกิน 9 สัปดาห์ ใช้ร่วมกับยา Misoprostal (ไซโตเทค) ซึ่งยา Misoprostal (ไซโตเทค) ได้ขึ้นทะเบียนในประเทศไทยเพื่อการรักษาโรคกระเพาะ และโรคทางนรีเวช

ถึงยาทั้งสองชนิดนี้จะมีความปลอดภัยสูง แต่ก็ยังมีข้อห้ามในการใช้ยาดังนี้

ผู้ที่เป็นโรคไต หรือโรคหมวกไตขั้นรุนแรง
ผู้ที่เป็นโรคเลือดขั้นรุนแรง หรือมีภาวะเลือดออกไม่หยุด
ผู้ที่เป็นโรคปอดรุนแรง หรือหอบหืดที่ต้องใช้ยาควบคุมอาการ
ผู้ที่ตั้งครรภ์นอกมดลูก (เกิดได้ 1 – 2 % ของการตั้งครรภ์ทั้งหมด ซึ่งต้องอัลตร้าซาวด์เท่านั้น ถึงจะทราบ)

ปริมาณการใช้ยา Misoprostal

ยา Misoprostol มักใช้รักษาโรคแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ โดยทั่วไปผู้ใหญ่ให้รับประทานวันละ 800 ไมโครกรัม โดยแบ่งรับประทาน 2-4 ครั้ง พร้อมอาหาร เป็นระยะเวลาติดต่อกันอย่างน้อย 4 สัปดาห์ จนกว่าอาการจะดีขึ้น แต่ไม่ควรเกิน 8 สัปดาห์ สำหรับปริมาณการใช้ยาในสภาวะอื่นอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านสุขภาพของแต่ละคน วัตถุประสงค์ในการรักษา ตัวยาหลักในการออกฤทธิ์ ความแรงของยา และดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา เช่น

ป้องกันแผลในกระเพาะอาหารจากการใช้ยากลุ่มเอ็นเสด

ผู้ใหญ่: รับประทานวันละ 100-200 ไมโครกรัม แบ่งรับประทาน 2-4 ครั้ง
ยุติการตั้งครรภ์ (อายุครรภ์ 49 วัน หรือน้อยกว่า)

ผู้ใหญ่: รับประทานวันละ 400 ไมโครกรัม โดยให้รับประทานหลังจากยามิฟีพริสโตน (Mifepristone)
กระตุ้นให้เจ็บครรภ์คลอด

ผู้ใหญ่: สอดยาชนิดควบคุมการปลดปล่อยยา ขนาด 200 ไมโครกรัม บริเวณช่องคลอด ซึ่งตัวยาจะค่อย ๆ ถูกปล่อยออกมา 7 ไมโครกรัมต่อชั่วโมงในเวลา 24 ชั่วโมง หรือ สอดยา ขนาด 25 ไมโครกรัม ทุก ๆ 4-6 ชั่วโมง
ป้องกันการตกเลือดหลังคลอด

ผู้ใหญ่: รับประทานยา 400-600 ไมโครกรัม หรือ เหน็บยาทางทวารหนักหลังทารกคลอด แต่ให้ยาก่อนขั้นตอนการคลอดรก

อ่านบทความเพิ่มเติม

ผู้หญิง ตั้งครรภ์ ทาน ยาขับเลือด มีผล อันตราย หรือไม่?

ยาขับเลือดคืออะไร?

https://www.cytotank.org/blog/read/45